Simplicity.
ความเรียบง่าย
Learn to like what doesn’t cost much. Those are the things worth your time. You can buy your way into things and places, but you can’t actually buy the experience of them. It’s not what you do; it’s what you perceive. A meaningful life isn’t how often you can saturate your senses, but how you grow to think of even the simplest, most unassuming daily things.
เรียนรู้ที่จะชอบสิ่งที่ไม่ต้องใช้เงินมากนัก เรียนรู้ที่จะชอบสิ่งที่คุ้มค่ากับเวลาของคุณ คุณสามารถใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสิ่งที่คุณต้องการและไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ แต่คุณไม่สามารถซื้อประสบการณ์จริงได้ สิ่งสำคัญไม่ใช่สิ่งที่คุณทำ แต่คือสิ่งที่คุณรับรู้ ชีวิตที่มีความหมายไม่ได้เกี่ยวกับการกระตุ้นประสาทสัมผัส แต่เป็นการเรียนรู้วิธีคิดแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน
Learn to like reading, whatever it is you like to read. Learn to like talking and people, even when they’re not the same as you. Learn that truths can coexist. That’s the one thing that will set you free in this world.
เรียนรู้ที่จะรักการอ่าน ไม่ว่าคุณจะชอบอ่านอะไรก็ตาม เรียนรู้ที่จะสนุกกับการพูดคุยกับผู้คน แม้ว่าพวกเขาจะแตกต่างจากคุณก็ตาม คุณรู้ไหมว่าความจริงสามารถอยู่ร่วมกันได้ นี่เป็นทัศนคติเดียวที่จะทำให้คุณเป็นอิสระในโลกนี้
Learn to like simple foods and cooking them. Learn to like fields, trees, camping, walking, fires, watching the day break and end. Learn to like writing and burning candles on rainy summer early evenings. Learn to like clean linens and washing dishes and hot baths and drinking water and long, meandering drives.
เรียนรู้ที่จะรักการทำอาหารมื้ออร่อยด้วยวัตถุดิบง่ายๆ เรียนรู้ที่จะรักทุ่งนา ต้นไม้ ตั้งแคมป์ เดินเล่น แคมป์ไฟ และชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เรียนรู้ที่จะชอบจุดเทียนและเขียนอย่างเงียบๆ ในตอนเย็นที่หิมะตกในช่วงต้นฤดูหนาว เรียนรู้ที่จะรักผ้าปูที่นอนที่สะอาด เรียนรู้ที่จะสนุกกับการล้างจาน อาบน้ำอุ่น และดื่มน้ำ เรียนรู้ที่จะรักการขับรถบนถนนบนภูเขาที่ยาวและคดเคี้ยว
Learn to keep your needs simple and your wants small. เรียนรู้ที่จะทำให้ความต้องการของคุณเรียบง่ายและความปรารถนาของคุณให้มันเล็กๆ
Learn to breathe deeply. To taste food when you eat it, to sleep deeply when you sleep. When you laugh, let it carry on until you’re sweating and out of breath. When you get angry, get really angry, just let things burn through you. The less you push these things away, the less they come out in inappropriate and debilitating ways. It’s not anger or the sadness that controls you; it’s the resistance of it that keeps them tucked in their place in your soul.
เรียนรู้ที่จะหายใจลึกๆ ลิ้มรสชาติเมื่อคุณกิน และหลับลึกเมื่อคุณนอนหลับ เมื่อคุณหัวเราะ ให้หัวเราะจนเหงื่อออกมากและหายใจไม่ออก เมื่อคุณโกรธ จงระบายความโกรธออกมาและจุดไฟแห่งอารมณ์ ถ้าคุณไม่ระงับอารมณ์ อารมณ์ต่างๆ ก็จะไม่ปรากฏในวิธีที่ไม่เหมาะสมและสิ้นเปลือง ไม่ใช่ความโกรธและความโศกเศร้าที่ควบคุมคุณ แต่เป็นการต่อต้านพวกเขา ปล่อยให้พวกเขาสงบนิ่งอยู่ในจิตวิญญาณของคุณ
Learn to let negative thoughts drift back to where they came from — nowhere.
เรียนรู้ที่จะปล่อยให้ความคิดเชิงลบกลับไปยังที่ที่มันมา —และกลับมาอยู่ที่ที่ตรงนี้
Do the things that are effortless. Let them be effortless. Find love that’s effortless. You’ll be instructed to believe that success comes from grueling, soul-bending hard work, but that’s more something we impose on ourselves because letting effortless things also be successful ones makes them feel unmerited. That’s how we create problems where there are none.
เรียนรู้ที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม พบกับความรักที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม คุณถูกสอนมาโดยตลอดว่าความสำเร็จนั้นมาจากความเพียรพยายาม แต่แนวคิดนี้ มักจะถูกยัดเยียดให้กับตัวเราเอง เพราะเรารู้สึกว่าเรื่องง่าย ๆ มันไม่คุ้มที่จะเอ่ยถึง และไม่สมควรที่จะเรียกว่า ความสำเร็จ เราจึงเริ่มสร้างปัญหา โดยที่ไม่มีปัญหาอะไร
Decide to keep nothing but what is meaningful and purposeful. When you cycle and circle around your space, touching, seeing, and using only things that evoke a feeling of security, purpose, meaning, joy…your everyday life becomes grounded in happiness. When there’s not enough to make a mess, no more than you can clean and wash and handle, everything feels settled.
เรียนรู้ที่จะเก็บเฉพาะสิ่งที่มีความหมาย เมื่อคุณสัมผัส เห็น และใช้สิ่งที่นำพาความมั่นคงและความสุขมาสู่พื้นที่ของคุณเอง ชีวิตประจำวันของคุณก็จะมีรากฐานแห่งความสุข หากไม่มีอะไรมากมายที่สร้างความสับสนให้กับคุณ คุณจะรู้สึกว่าปัญหาทั้งหมดสามารถแก้ไขได้
Complexity is often the easiest choice. It’s easy to let ourselves get wound up and bound down to the ways we let our thoughts and fears run narratives into storylines into realities we live out.
การทำสิ่งต่าง ๆ ให้ซับซ้อนมักเป็นตัวเลือกที่ง่ายที่สุด เป็นเรื่องง่ายที่จะปล่อยให้ตัวเองวิตกกังวลและปล่อยให้ความคิดและความกลัวกลายเป็นความจริง
Simplicity is difficult because it requires clean thinking. It’s the long, hard way to a cleansed perception (that is: not shadowed by conditioning or negative thoughts). But it’s yours, and yours always. You can keep all of one hundred belongings for the rest of your life, and every one of them will be used, broken, replaced, taken, thrown out, rendered obsolete. But your perception of how meaningful and useful those temporary things were, how much you appreciated and enjoyed them — that’s yours. And that is what choosing a life rooted in simplicity does: makes the ordinary miraculous.
การทำสิ่งต่างๆ ให้เรียบง่ายเป็นเรื่องยากเพราะต้องใช้การคิดที่ชัดเจน เป็นเส้นทางที่ยาวและยากลำบากซึ่งนำคุณไปสู่ความรู้สึกที่บริสุทธิ์ (ไม่ได้รับอิทธิพลจากเงื่อนไขหรือความคิดเชิงลบ) เมื่อความสามารถนี้เป็นของคุณแล้ว มันก็จะเป็นของคุณตลอดไป คุณสามารถเก็บสิ่งของได้ร้อยรายการตลอดชีวิต แต่ละชิ้นจะถูกใช้ เสียหาย เปลี่ยน มอบให้ผู้อื่น โยนทิ้ง และล้าสมัย ความหมายของสมบัติชั่วคราวเหล่านี้ที่มีต่อคุณ ความซาบซึ้งและความเพลิดเพลินต่อสิ่งเหล่านั้น คือ นั่นคือสิ่งที่ชีวิตเรียบง่ายต้องการ เปลี่ยนสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นสิ่งอัศจรรย์ .
People like to make big claims of what will bring you happiness. And happiness, in some form, is what we’re all seeking, even if we don’t place that word on it. Stability, love, money. Happy psychology, the phenomenon of the last 25+ years, has come about really for the fact that we pioneered a country for the sake of unbridled, radical happiness: religious liberation, freedom, democracy.
ผู้คนชอบพูดถึงสิ่งที่จะทำให้พวกเขามีความสุข ในแง่หนึ่ง ความสุขคือสิ่งที่เราทุกคนใฝ่หา และความมั่นคง ความรัก และเงินทองก็เท่ากับความสุขในสายตาของเราเช่นกัน
Yet these things, these houses that hold us and companies we run, these relationships we fail at because we’re constantly expecting them to be more — the desire to max out pleasure — has not made us happier.
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรามุ่งมั่นเพื่อให้ได้มา ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่เราลงทุน ธุรกิจที่เราดำเนินการ และความสัมพันธ์ที่เรารักษาไว้ ความสัมพันธ์ที่เราหวังว่าจะได้รับมากขึ้นเสมอ ไม่เคยทำให้เรามีความสุขมากขึ้น
Because we have not changed how we think — and that’s the only real change that ever happens, because it’s the basis of how we feel. The magnitude of one’s life is directly parallel to how deep their perception of it is. Your life grows as you do. What you experience is a reflection of what you are.
เพราะเราไม่เปลี่ยนวิธีคิด นั่นคือสิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงเราจริงๆ คือพื้นฐานของความรู้สึกของเรา ความหนาของชีวิตของบุคคลนั้นสอดคล้องกับความลึกของการรับรู้ชีวิตของเขา ชีวิตของคุณเปลี่ยนแปลงเมื่อคุณเติบโต ประสบการณ์ของคุณสะท้อนให้เห็นว่าคุณเป็นใคร
Do not forget that you do not have forever to do this, to change this.
อย่าลืมว่าคุณไม่มีเวลาตลอดไปที่จะค่อยๆ ทำสิ่งนี้และค่อยๆ เปลี่ยนแปลงมัน
It’s easy to let another day, week, month, year slip by, letting yourself keep seeking the light in people and money and more and more and more. It’s easier to spend that time seeking the light in yourself because you think that’s the right thing to do. You don’t find the light — the ability to perceive — because you already are it. The work is getting rid of everything that stands in the way.
วัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หนึ่งปี อาจผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุณอยากจะมีเพื่อน เงิน และทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอด และคุณอยากจะปล่อยให้ตัวเองเปล่งประกายในลักษณะนี้มาโดยตลอด และจริงๆ แล้ว มันง่ายกว่าที่จะใช้เวลาเหล่านี้เพื่อค้นหาแสงสว่างในตัวเองเพราะคุณมีความสามารถในการรับรู้ , คุณเบาแล้ว สิ่งที่คุณต้องทำตอนนี้คือกำจัดอุปสรรคทั้งหมดให้หมด
จาก 101 บทความเปลี่ยนชีวิตที่จะเปลี่ยนวิธีคิดคุณ (101 Essays That Will Change The Way You Think) ผู้เขียน Brianna Wiest
ตัดแปะโดย เฉลิมชัย เอื้อวิริยะวิทย์