12 Things Truly Fulfilled People Understand

Chalermchai Aueviriyavit
7 min readApr 18, 2024

--

ยิ่งคุณพึงพอใจกับการตัดสินใจของตัวเองมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งอาศัยคนอื่นน้อยลงเท่านั้นและอีก 11 สิ่งที่คนที่พึงพอใจอย่างแท้จริงรู้

When the end goal is to have something tangible, the “end goal” has not actually been identified yet.

เมื่อเป้าหมายสุดท้ายคือการมีสิ่งที่จับต้องได้ จริงๆ แล้ว “เป้าหมายสุดท้าย” ยังไม่ได้รับการระบุ

By Brianna Wiest, Contributor

Writer, editor, author.

Sep 11, 2015, 11:34 AM EDT

|Updated Sep 11, 2016

This post was published on the now-closed HuffPost Contributor platform. Contributors control their own work and posted freely to our site. If you need to flag this entry as abusive, send us an email.

https://www.huffpost.com/entry/12-things-truly-fulfilled-people-understand_b_8019150

Fulfillment may seem like the elusive desire that’s driving an entire consumerist market, but that’s only because smart people are capitalizing on something that’s ingrained in all of us (or at least, ingrained in us by the millions): We have an aching desire to live a meaningful life, but no one really seems to know how.

ความพอใจดูเหมือนจะเป็นความปรารถนาที่เข้าใจยาก มันกำลังขับเคลื่อนตลาดผู้บริโภคทั้งหมด แต่นี่เป็นเพียงคนฉลาดบางคนที่ใช้ประโยชน์จากสัญชาตญาณโดยธรรมชาติของเราในการหาเงิน เราทุกคนปรารถนาชีวิตที่เต็มไปด้วยความหมายอย่างกระตือรือร้น แต่เราไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเช่นนั้นได้อย่างไร

Somewhere along the line, we confused happiness for what we have, as opposed to what we do. We thought that the solution to an incomprehensible emptiness was to fill everything else around us. Needless to say: This has mostly, if not entirely, failed.

ในช่วงหนึ่งของชีวิต เราคิดว่าความสุขคือสิ่งที่เรามี ไม่ใช่สิ่งที่เราทำ เราคิดว่าการที่จะหลีกหนีจากความว่างเปล่า เราต้องเติมเต็มทุกสิ่งรอบตัวเรา แน่นอนว่าสิ่งนี้ล้มเหลว หรืออาจกล่าวได้ว่าล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง

To be truly fulfilled is to be happy because of your own self-realization. It is to come to such a genuine understanding of what you want that not doing it isn’t an option anymore. It’s seeing beyond the mindsets you adopted, or the ideals that are not inherently your own. It is the humble simplicity of what you want to offer the world each day, and it is the love you awaken as you do it.

ความพึงพอใจที่แท้จริงคือความสุขเนื่องจากการตระหนักรู้ในตนเอง เมื่อคุณเข้าใจสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง คุณจะมีความปรารถนาที่จะต้องทำให้สำเร็จ และคุณทำทุกอย่างด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนและความรัก

มันเป็นความเรียบง่ายเล็กๆ น้อยๆ ของสิ่งที่คุณต้องการมอบให้กับโลกในแต่ละวัน และเป็นความรักที่คุณปลุกให้ตื่นขึ้นเมื่อคุณทำสิ่งนี้

Here are 12 things truly fulfilled people understand: ต่อไปนี้เป็น 12 สิ่งที่ผู้สมหวังอย่างแท้จริงเข้าใจ:

1. Success is falling in love with the process, not the outcome. ความสำเร็จเกิดจากการหลงรักกระบวนการ ไม่ใช่ผลลัพธ์
It’s making your dreams about the journey, about the “doing,” about the day-in-day-out routine and minutiae. The life you want lies within the simplicity of your everyday tasks. You can’t only focus on writing the synopsis and then wonder why you don’t have a book yet. ความสำเร็จคือการเดินทาง “การกระทำ” ที่แท้จริง ความพากเพียรในแต่ละวัน และความฝันที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ชีวิตที่คุณต้องการอยู่ในงานประจำวันที่เรียบง่าย คุณไม่สามารถมุ่งความสนใจไปที่การเขียนโครงร่างแล้วสงสัยว่าทำไมคุณถึงยังไม่เขียนหนังสือเลย

2. Only some happiness is valued in society. สังคมมองว่าความสุขบางอย่างเท่านั้นที่มีมีคุณค่า
Not everybody will applaud the fact that you left your job to work at a coffee shop because it’s what you love. There is really only one kind of happiness that society values, and that’s the kind that society is comfortable with: the kind that is far enough removed from genuine contentment that nobody else feels pressured to consider how unfulfilling his or her own life is. Do not let other people’s demons determine what your happiness is. Do not let other people’s fear make you afraid, too. บางทีคุณอาจลาออกจากงานปัจจุบันและทำงานเป็นบาริสต้าที่ร้านกาแฟเพราะนั่นคือสิ่งที่คุณรัก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะให้กำลังใจคุณ ความสุขมีเพียงประเภทเดียวที่สังคมให้ความสำคัญจริงๆ นั่นคือความสุขแบบที่ดูเหมาะสมและรุ่งโรจน์ ความสุขแบบนี้ ยังห่างไกลจากความพึงพอใจที่แท้จริง เพียงทำให้คนไม่มีแรงกดดันในการอยู่รอด อย่าให้ความคิดเห็นของคนอื่นมากำหนดความสุขของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องกลัวสิ่งที่คนอื่นกลัว

3. Love and success aren’t non-renewable resources. Someone else’s successes don’t take away from your own. ความรักและความสำเร็จไม่ใช่ทรัพยากรที่ไม่หมุนเวียน สิ่งที่คนอื่นมีจะไม่ถูกพรากไปจากคุณ
This belief first appears for most people in elementary school: We see that some people are popular, and some people aren’t. Some people can be happy; some can’t. Often, this is where the lifelong competition that only ever exists in our heads begins. Someone else’s success doesn’t make you less successful. If someone else receives love or praise, that doesn’t mean you aren’t love- or praise-worthy. You are not only as good as you are better than someone else. ในโรงเรียนประถมศึกษา เราจะพบว่า: บางคนมีชื่อเสียงและบางคนไม่เป็นที่นิยม นี่เป็นการเริ่มต้นการแข่งขันตลอดชีวิตของเรา แต่ความสำเร็จของคนอื่นไม่ได้พรากความสำเร็จของคุณไป เพียงเพราะคนอื่นได้รับความรักหรือคำชมไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับความรักหรือคำชมเชย

4. The happier you are with a decision, the less you need other people to be. ยิ่งคุณพอใจกับการตัดสินใจมากเท่าไร คุณก็ยิ่งต้องการให้ผู้อื่นตัดสินใจแทนคุณน้อยลงเท่านั้น
The happier you are with what you do, the less you need other people to support you. Ironically, it’s also in being happier with what you do that you’ll find the support you were looking for before you knew how to give it to yourself. ยิ่งคุณพอใจกับสิ่งที่คุณทำมากเท่าไร คุณก็ยิ่งต้องการให้ผู้อื่นสนับสนุนคุณน้อยลงเท่านั้น สิ่งที่น่าสนใจคือ ยิ่งคุณทำอะไรสนุกมากขึ้นเท่าไร คุณก็จะยิ่งได้รับการสนับสนุนที่ต้องการมากขึ้นเท่านั้น

5. The end goal is to see how the simplest things are the most extraordinary. เป้าหมายสูงสุดของเราคือการดูว่าสิ่งที่เรียบง่ายที่สุดจะกลายเป็นสิ่งพิเศษได้อย่างไร
When the end goal is to have something tangible, the “end goal” has not actually been identified yet. Tangible goals — money, books, job titles, and so on — are mile markers. They are the products of your life, not the goals of your life. The goals are to be truly fulfilled. The book you finally write is not your fulfillment; it’s one expression of it. Don’t confuse the radio for the sound wave. เมื่อเป้าหมายสุดท้ายของเราคือการมีสิ่งที่จับต้องได้ แสดงว่า “เป้าหมายสุดท้าย” นั้นยังไม่ได้ถูกกำหนดไว้จริงๆ เป้าหมายที่จับต้องได้ เช่น เงิน หนังสือ งาน ฯลฯ เป็นเพียงตัวชี้วัดระยะทางเท่านั้น สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากชีวิตของคุณ ไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต เป้าหมายคือสิ่งที่คุณต้องการบรรลุจริงๆ หนังสือที่คุณเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ใช่ความสำเร็จของคุณ แต่เป็นการแสดงออก

6. You don’t “have” to, you “get” to. คุณไม่ได้ “บังคับ” ให้ทำ แต่ “อยาก” ให้ทำ

This is one of the simplest changes in perception: knowing that everything is an opportunity to experience. You don’t have to go to work, you get to go to work. You don’t have to wake up early, you get to wake up early. When you start considering things not as obligations but as opportunities, you start taking advantage of them, rather than trying to avoid them. นี่คือการเปลี่ยนแปลงทางปัญญาที่ง่ายที่สุดที่สามารถนำไปสู่ความพึงพอใจอย่างแท้จริง: ถือว่าทุกสิ่งเป็นโอกาสในการสัมผัสมัน คุณไม่ได้ถูกบังคับให้ไปทำงาน แต่คุณอยากไปทำงาน คุณไม่ได้ถูกบังคับให้ตื่น แต่เช้า คุณอยากตื่นเช้า เมื่อคุณเริ่มมองว่าสิ่งต่างๆ เป็นโอกาสมากกว่าเป็นภาระผูกพัน คุณจะมีส่วนร่วมในการทำมันแทนที่จะพยายามหลีกเลี่ยงมัน

7. Easy does it, and does it well. ง่ายก็ทำมันและทำให้ดีด้วย

It’s a phrase used so frequently, and yet rarely ever with understanding. Anything that is genuine and wonderful and most probably successful is effortless. The state you’re in when you’re creating will be what the outcome is. The more ease and love you put into it, the more other people will get out of it. เป็นวลีที่ใช้บ่อยแต่ไม่ค่อยเข้าใจ: อะไรก็ตามที่เป็นจริง อัศจรรย์ และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากที่สุดนั้นง่ายดาย สถานะที่คุณเป็นเมื่อคุณสร้างจะกำหนดผลลัพธ์ของคุณ ยิ่งคุณผ่อนคลายและทุ่มเทความรักให้กับมันมากเท่าไร ผู้คนก็จะได้รับประโยชน์จากมันมากขึ้นเท่านั้น

8. Anything that exists in your life exists because you created it. Anything that persists does so because you are feeding it. ทุกสิ่งที่มีอยู่ในชีวิตของคุณดำรงอยู่เพราะการสร้างสรรค์ของคุณ ทุกสิ่งที่คงอยู่ย่อมเป็นเช่นนั้นเพราะคุณเลี้ยงดูมัน

Consider this: Every one of your actions feeds something within you. It feeds your desire for control, your love for your job, your spitefulness toward your sister, your complacency with your marriage. Every action creates and compounds upon something that already exists. With this in mind, ask yourself what it is you feed each day… Your life will make more sense if you do. ลองคิดดู: ทุกการกระทำที่คุณทำจะช่วยบำรุงหัวใจของคุณ ทุกการกระทำถูกสร้างขึ้นและสังเคราะห์จากสิ่งที่มีอยู่แล้ว เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ ให้ถามตัวเองว่าอะไรหล่อเลี้ยงคุณทุกวัน แล้วชีวิตของคุณจะมีความหมายมากขึ้น

9. It’s not about whether or not you listen to yourself; it’s about what part of yourself you listen to. ไม่สำคัญว่าคุณจะฟังหัวใจของตัวเองหรือไม่ แต่สำคัญว่าคุณจะฟังส่วนไหนในตัวคุณ
Most people find it almost impossible to listen to their instincts because they don’t know what they’re saying. Or, worse, they’ve listened to them before and they’ve been destructively incorrect or short-sighted. That’s because at any given time, there will be many different “voices” that drive you to different outcomes. Your immediate instincts may be geared more toward protecting you than expanding you. They could be speaking out of a place of fear. You have to ask yourself: What is the root of this reaction, where does it come from, and what is its outcome, in the long term?คนส่วนใหญ่พบว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฟังสัญชาตญาณของตนเพราะพวกเขากลัวว่ามันจะไม่ถูกต้อง เนื่องจากในช่วงเวลาใดก็ตาม มี “เสียง” ที่แตกต่างกันมากมายที่ขับเคลื่อนคุณไปสู่ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน สัญชาตญาณของคุณอาจมุ่งเน้นไปที่การปกป้องคุณมากกว่าที่จะขยายตัวคุณ สัญชาตญาณอาจมาจากการกีดกันทางอารมณ์หรือความกลัว คุณต้องถามตัวเองว่า อะไรคือสาเหตุของปฏิกิริยานี้ มาจากไหน และผลที่ตามมาในระยะยาวคืออะไร?

10. Even when you justify your judgment of people by how right you are, you’re still wrong. ใช้สิทธิของคุณเพื่อพิสูจน์การตัดสินใจของคุณต่อผู้อื่น ไม่ว่าคุณจะถูกแค่ไหน คุณก็ผิดเสมอ
It doesn’t matter how awful someone is being, or how correct you are in your takedown of their mental-emotional state. You’re still wrong for doing it. It’s not your job to police for the universe; it’s your job to take care of why you feel more comfortable making assumptions about others than processing the assumptions you fear they’re making about you. ไม่ว่าคนอื่นจะแย่แค่ไหน หรือคุณวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาถูกแค่ไหน คุณก็ยังผิดที่ทำเช่นนั้น งานของคุณไม่ใช่ตำรวจโลก สิ่งที่คุณต้องกังวลคือเหตุใดคุณจึงเต็มใจที่จะคาดเดาผู้อื่นในทางที่ผิด แต่อย่ากังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับคุณ

11. Your soul knows what to do to heal itself — the challenge is just to let it. จิตใจของคุณรู้วิธีรักษาตัวเอง คำถามคือคุณพร้อมหรือยัง
Much mental and emotional healing comes from first completely addressing the problem. You’ll find that, throughout your life, you’ll create situations again and again that all but force you to address some longstanding issue. That’s not because you necessarily want to torture yourself, but rather because you want to address it, and bring it to your conscious awareness, so you can deal with it and let it go. Trust in your nature. It can know more than your mind. การเยียวยาจิตใจและอารมณ์ส่วนใหญ่ต้องอาศัยการแก้ปัญหาก่อน ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดชีวิต คุณจะสร้างสถานการณ์ที่บังคับให้คุณแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนาน นั่นเป็นเพราะคุณอดไม่ได้ที่จะทรมานตัวเองในขณะเดียวกันก็พยายามแก้ไขสิ่งที่กำลังทรมานคุณอยู่ คุณต้องทำให้ตัวเองตระหนักถึงการมีอยู่ของพวกเขาเพื่อที่คุณจะได้จัดการกับพวกเขาและปล่อยพวกเขาไปในที่สุด เชื่อธรรมชาติของคุณ — มันรู้ดีกว่าร่างกายของคุณ

12. You probably can’t be whatever you want, but if you’re really lucky, and you work really hard, you can be exactly who you are. คุณอาจไม่สามารถเป็นคนอย่างที่คุณอยากเป็นได้ แต่ถ้าคุณโชคดีจริงๆ และทำงานหนักจริงๆ คุณสามารถเป็นคนที่คุณเป็นได้จริงๆ

… Which is all most people ever want, anyway. Grandiose visions of being something spectacular — and spectacularly removed from someone’s skill set and personality, etc. — can be measured in proportion to how much the person in question feels he/she is lacking. The funny reality is that people who accomplish incredible things never think of them as incredible; they think of them as normal. It’s that integration into “normalcy” that makes it a pattern, which makes it a routine, which makes it a habit, which ultimately makes it a product. That drive and consistency is born of one thing and one thing only: doing something in alignment with who you truly are. It is a privilege, albeit an extraordinary challenge, to wake up to yourself — and even more so to find someone who loves that person, a job that utilizes that person, and a life that fully realizes that person, even if you denied him/her along the way. คนที่ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เหลือเชื่อไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษ พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดา มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ทำให้ความยิ่งใหญ่ของพวกเขาเป็นแบบแผน กิจวัตร นิสัย และผลลัพธ์ในท้ายที่สุด แรงผลักดันและความยืดหยุ่นอย่างต่อเนื่องนี้มาจากสิ่งเดียวเท่านั้น: การทำสิ่งที่สอดคล้องกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ การตื่นรู้ตัวเองเป็นพร แต่ก็เป็นความท้าทายที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน สิ่งที่สำคัญกว่าคือการมีคนที่รักเรา งานที่ต้องการเรา และชีวิตที่เราเติมเต็มให้เต็มที่ แม้ว่าเราจะถูกปฏิเสธ แต่มีสิ่งเหล่านี้ก็เพียงพอแล้ว

Love this? Want more? Check out the author’s website, Soul Anatomy, on Facebook and Twitter.

จาก 101 บทความเปลี่ยนชีวิตที่จะเปลี่ยนวิธีคิดคุณ (101 Essays That Will Change The Way You Think) ผู้เขียน Brianna Wiest

ตัดแปะโดย เฉลิมชัย เอื้อวิริยะวิทย์

--

--