Change Anything: The New Science of Personal Success — April 10, 2012
เปลี่ยนอะไรก็ได้ : ศาสตร์แห่งความสําเร็จส่วนบุคคล by Kerry Patterson (Author), Joseph Grenny (Author), David Maxfield (Author), Ron McMillan (Author),Al Switzler
วิธีการที่น่าทึ่งในการที่แต่ละบุคคลไม่เพียงแต่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นในที่ทำงาน แต่ยังรวมถึงชีวิตของพวกเขาที่อยู่นอกสำนักงาน ซึ่งรวมถึง (แต่ไม่จำกัดเพียง) การหาวิธีปรับปรุงความสัมพันธ์ในการทำงานกับผู้อื่น สุขภาพโดยรวม ทัศนคติ ในชีวิตและอื่น ๆ
หากคุณเป็นเหมือนมนุษย์ส่วนใหญ่ คุณติดอยู่ในชีวิตอย่างน้อยหนึ่งด้าน และถ้าคุณเป็น เหมือนมนุษย์ส่วนใหญ่ คุณได้ลองวิธีแก้ปัญหาที่มีแนวโน้มดีหลายอย่างแล้ว แต่ยังติดกับ ดักและท้อแท้ต่อไป แม้ว่าคุณจะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่คุณยังต้องการที่จะ เปลี่ยน บางทีคุณอาจต้องการเลิกนิสัยที่ไม่ดี (บางทีอาจถึงขั้นเสพติด) หรือเริ่มออกกําลัง กายเป็นประจําและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น หรือบางทีคุณอาจ ต้องการปรับปรุงอาชีพที่เฉื่อยชาหรือสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ดิ้นรน ปัญหาคือ พวกเราส่วน ใหญ่ขาดความคิดว่าเราขาดความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลง
เมื่อเราเข้าใจพลังที่กระทําต่อเรา เราก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกมันอีกต่อไป เราสามารถออกแบบแผนการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพได้อย่างรู้เท่าทัน
ค้นพบทางออกสำหรับทุกปัญหาในชีวิตด้วย 6 วิธีคิดที่จะเปลี่ยนอุปสรรคให้เป็นพลัง
เพื่อค้นพบสิ่งที่ต้องใช้ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เราที่ Change Anything Labs ได้ตรวจสอบการต่อสู้และกลยุทธ์ การ ทดลอง และชัยชนะของคนมากกว่าห้าพันคน ซึ่งทุกคนกําลังค้นหาวิธี ที่จะเอาชนะความท้าทายส่วนตัว ผู้ค้นหาที่กล้าหาญเหล่านี้กําลังมองหา หวังว่าจะ..
- ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
- มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง
- เยียวยาความสัมพันธ์ที่กำลังคลอนแคลน
- ก้าวหน้าท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงขององค์กร
- ลดน้ำหนัก มีร่างกายที่แข็งแรง ฟิตหุ่นและควบคุมน้ำหนักให้ได้ตลอด
- หลุดพ้นจากการเสพติด
เมื่อเราเข้าใจพลังที่กระทําต่อเรา เราก็ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของพวกมัน อีกต่อไป เราสามารถออกแบบแผนการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพได้อย่างรู้เท่าทัน
หลังจากที่ได้เรียนรู้หลักการและทักษะของการเปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่ว่าอะไรคุณก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น
เมื่อเราพยายามแก้ไขนิสัยแย่ๆ หรือพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น
วิธีการจูงใจนั้นมีอยู่มากมายนับไม่ถ้วน
ทำไมเราจึงล้มเหลวเมื่อพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง เราเป็นใครไปไม่ได้หรอกนอกจากตัวเราเอง
ถ้าคุณมองเห็น คุณก็ย่อมเปลี่ยนแปลงได้
6 แหล่งพลังสู่การเปลี่ยนแปลง
- Motivation แรงจูงใจ
- Ability ความสามารถ
- ระดับบุคคล สังคมและโครงสร้าง
คุณต้องศึกษาตัวคุณเอง
- จะประสบความล้มเหลวมากพอๆ กันกับที่ประสบความสำเร็จ
- ต้องปรับเปลี่ยนแผนการให้เข้ากับตัวเอง
ถ้ามีโอกาสสนทนากับคนที่เคยเปลี่ยนแปลงได้สำเร็จคุณจะได้เรื่องราวต่างๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ และมีทางเลือก อย่างน้อยถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องทำในสิ่งที่ผู้ประสบความสำเร็จเขาทำกัน หันมาเป็นนักวิทยาศาสตร์และหนูทดลองไปพร้อมๆ กันบนเส้นทางการแสวงหาการค้นพบที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวคุณ นั่นคือ วิธีเปลี่ยนแปลงตัวคุณเอง
พรุ่งนี้จริงๆ ไม่เคยมีอยู่จริง เราทุกคนต่างก็มีแผนใหญ่ที่จะ เปลี่ยนแปลงแง่มุมต่างๆ ของชีวิต แต่เมื่อถูกถามว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ คํา ตอบมักจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ การ เปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องยากและ เป็นการยากที่จะละทิ้งสิ่งที่รู้สึก สบายใจ เมื่อเรามีทางเลือกในการ เพลิดเพลินกับสิ่งต่างๆ ได้แล้ว หรือ การจ่ายเงินสําหรับทางเลือกเหล่า นั้นในภายหลังเรามักจะคิดถึงตอนนี้ และตามใจตัวเองเท่านั้น เพื่อช่วยให้ เราต่อต้านความสุขที่เกิดขึ้นในทันที ของนิสัยที่ไม่ดี เราจําเป็นต้อง พยายามเชื่อมโยงมันเข้ากับความ เจ็บปวดที่จะเกิดขึ้นกับเราในอนาคต คิดแบบนี้เราจะช่วยเราทําลายกับดัก “พรุ่งนี้” นั้น
ศาสตร์แห่งการเปลี่ยนแปลงตนเองมาประยุกต์ใช้
1. ระบุให้ได้ก่อนว่า เรื่องอะไร ปัญหาอะไร ผลลัพธ์อะไร ที่เราต้องการเปลี่ยนแปลง ระบุให้ชัด ชัดมากเท่าไหร่ งานการเปลี่ยนแปลงก็จะยิ่งง่ายขึ้น
2. ระบุช่วงเวลาวิกฤต(Crucial moment) หมายถึง ช่วงเวลาที่ถ้าเรากระตุ้นให้ตัวเองแสดงพฤติกรรมที่ถูกต้องออกมาได้ในตอนนั้น ก็จะเป็นใบเบิกทางไปสู่ผลลัพธ์ที่เราต้องการ ซึ่งเป็นช่วงเวลาหรือสถานการณ์ที่การตัดสินใจเลือกของเราจะส่งผลกระทบมากที่สุด
3. สร้างพฤติกรรมสำคัญ(Vital behaviors) หมายถึง การกระทำที่มีผลสำคัญอย่างมากที่จะก่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ ตั้งกฏให้กับตัวเองในเวลาที่ต้องพบเจอกับสิ่งยั่วยุ สร้างและลองใช้พฤติกรรมสำคัญ พิจารณาว่าอะไรที่ใช้ได้ผลและไม่ได้ผล ปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นและทำซ้ำทั้งกระบวนการเมื่อจำเป็น
4. ใช้พลังการเปลี่ยนแปลงจาก 6 แหล่ง ที่จะมาช่วยผลักดันให้เกิดพฤติกรรมนั้น
4.1 แรงจูงใจระดับตัวบุคคล หมายถึง เราต้องสร้างแรงปลุกเร้าให้รู้สึกอยากทำ ไม่ทำไม่ได้ โดยเชื่อมโยงผูกไปกับเป้าหมายที่เราต้องการ สร้งจินตภาพที่ชัดเจนออกมา สร้างคำพูดจูงใจ เปลี่ยนให้เป็นเกมที่สนุกสนาน
4.2 ความสามารถระดับบุคคล หมายถึง การวางแผนการฝึกฝนอย่างมีรูปแบบที่เหมาะกับตัวเรา(Deliberate practice) สร้างพลังใจ (will skill) ให้มากขึ้น
4.3 แรงจูงใจที่มาจากสังคมคนรอบข้าง หมายถึง พลังมวลชนคนใกล้ชิดที่คอยสนับสนุน ให้กำลังใจ กระตุ้น เชียร์ ให้เกิดความฮึดและความอยาก ซึ่งอาจต้องหาเพื่อนใหม่(กัลยาณมิตร) หรือเลิกคบกับคนบางคน(ที่ชักจูงเราในทางไม่ดี)
4.4 ความสามารถที่ได้รับจากสังคมคนรอบข้าง ครูอาจารย์ กัลยาณมิตร ที่คอยสอนช่วยเหลือ ประคับประครอง แก้ไข ตลอดจนให้ feedback
4.5 โครงสร้างที่สร้างแรงจูงใจ เช่น ให้รางวัลกับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใหญ่มากนัก แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จเล็กๆได้
4.6 โครงสร้างที่ช่วยให้ใช้ความสามารถได้ง่ายและสะดวกขึ้น เช่น ตั้งกฎควบคุมหรือสิ่งเตือนใจหรือพื้นที่ปลอดภัยให้กับตัวเอง ควบคุมระยะห่างจากสิ่งยั่วยุ สร้างทางเลือกที่เราต้องการให้เป็นอัตโนมัติ ใช้เครื่องมือช่วยต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ
5. จดบันทึกเขียนเป็นแผนออกมา แล้วหมั่นตรวจสอบดูว่า เรามีความก้าวหน้าเพียงใด มีสิ่งใดที่ต้องปรังปรุง แก้ไข เปลี่ยนแปลง การจดบันทึก — การเขียนแผนจะเพิ่มโอกาสในการประสบความสําเร็จมากกว่า 30%
แหล่งพลังที่ 1 รักในสิ่งที่คุณเกลียด เปลี่ยนสิ่งที่เราไม่ชอบให้เป็นสิ่งที่เราชอบ อะไรก็ไม่อาจหยุดยั้งเราได้อีกต่อไป มีคนมากมายที่รักในสิ่งที่คุณเกลียด คุณสามารถรักในสิ่งที่คนเกลียดได้หรือไม่ มองเห็น รู้สึก และเชื่อมั่นในอนาคต นึกภาพอนาคตที่จะเกิดขึ้น เล่าเรื่องทั้งหมดด้วยภาษาที่ชัดเจนและทรงพลัง ใช้คำที่สื่อถึงคุณค่า
เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทาย เปลี่ยนมันให้เป็นเกม ที่จะมีองค์ประกอบที่สำคัญ 3 อย่างคือ
- เวลา
- ความท้าทาย
- คะแนน (คุณค่า)
เปลี่ยนสิ่งที่น่าหวาดหวั่นให้เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจ คิดข้อความสร้างแรงจูงใจ
แหล่งพลังที่ 2 ทำในสิ่งที่คุณทำไม่ได้ ให้สำรวจว่าเราขาดความรู้หรือทักษะบางอย่างซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้พลังใจเลย ใช้การฝึกฝนอย่างมุ่งมั่น (deliberate practice) ฝึกฝนสำหรับช่วงเวลาวิกฤติ แบ่งทักษะเป็นส่วนๆ และฝึกฝนอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสั้นๆ เทียบกับมาตรฐานที่ชัดเจนทันทีและประเมินความก้าวหน้าของคุณ พร้อมรับมือกับความผิดพลาด เรียนรู้ทักษะในการสร้างพลังใจ
เปลี่ยนผู้สมคบคิดให้เป็นเพื่อน
จุดมุ่งหมายของคุณไม่ใช่แค่การยืนหยัดต่อสู้กับแรงกดดันมหาศาลจากคนรอบข้างเท่านั้น แต่ยังนำมาใช้ประโยชน์กับตัวคุณเองอีกด้วย
รู้ว่าใครเป็นเพื่อนและใครเป็นผู้สมคบคิด ที่ชัดเจน ไม่ชัดเจนนัก แบบอย่าง-ใครกันที่เป็นคนปกติ? เมื่อพูดถึงการเฝ้าดูผู้อื่นกระทำการอย่างเงียบๆ เราก็ทำสำเร็จแล้ว เราทุกคนต่างประหม่า
เราทุกคนล้วนเคยจับตามองคนอื่นทำบางสิ่งที่ไม่ส่งผลดีต่อตัวพวกเขาเองทั้งนั้น เราเลือกที่จะเฝ้าดูอย่างเงียบๆ เรานิ่งเฉยและมองดู ทุกครั้งที่เราตัดสินใจว่าจะไม่พูดอะไร เราก็จะกลายเป็นผู้สมคบคิดที่นิ่งเงียบ
ผู้ดำเนินรายการ : ใครกันแน่ที่เป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลัง
เพื่อน ครูฝึก และแฟนคลับ : ใครตะโกน ช่วย และเชียร์? กลุ่มคนดีๆ ที่เราควรมีไว้รอบตัว
นิยามคำว่า “ปกติ” เสียใหม่ เพื่อตัวคุณเอง หากคุณยังคงวัดตัวเองกับบรรทัดฐานที่กำหนดโดยผู้สมรู้ร่วมคิดที่ไม่สนใจ
จัดการสนทนาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง
วิธีที่ง่ายที่สุดในการใช้ประโยชน์จากพลังของอิทธิพลทางสังคมคือการเพิ่มเพื่อนใหม่ ค้นหาผู้คนที่มีเป้าหมายเดียวกับคุณหรือสนใจที่จะให้การสนับสนุนคุณ ดึงดูดพวกเขาในฐานะโค้ชหรือแฟน ๆ หรือแค่ไปเที่ยวกับพวกเขาเพื่อช่วยให้คุณเห็น “ความปกติ” แบบใหม่ ส่วนใหญ่ยินดีที่จะช่วยเหลือ มีบางสิ่งที่เริ่มต้นความสัมพันธ์ได้เร็วกว่าการขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่มีจุดประสงค์ที่คุ้มค่า
ทำตัวให้ห่างจากสิ่งที่ไม่ต้องการ
ไม่ใช่ทุกคนที่คุณคบหาด้วยจะเต็มใจที่จะเปลี่ยนจากผู้สมรู้ร่วมคิดเป็นเพื่อน ในบางกรณี คุณจะต้องทำตัวห่างเหินจากบุคคลที่สนับสนุนหรือทำให้นิสัยไม่ดีของคุณซ้ำๆ บ่อยครั้ง การเว้นระยะห่างนี้จะค่อยๆ พัฒนาไปตามธรรมชาติและไม่เจ็บปวด
คุณคาดหวังอะไรได้บ้าง?
หากคุณหยุดตอนนี้และระบุรายชื่อเพื่อนและผู้สมรู้ร่วมคิดที่ประกอบกันเป็นโลกของคุณ และถ้าคุณเริ่มเปลี่ยนคณิตศาสตร์ในแบบที่คุณชอบด้วยการเปลี่ยนแปลงและกำจัดผู้สมรู้ร่วมคิด — ในขณะเดียวกันก็สร้างเพื่อนใหม่ — คุณจะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จอย่างมาก
บางทีเราต้องตีตัวออกห่างจากบางคน ทำตัวให้ห่างจากผู้ที่ไม่เต็มใจ
ใช้ประโยชน์จาก “หลีกเลี่ยงการสูญเสีย” การเกลียดชังความสูญเสีย
แนวคิดต่อไปนี้มาจากแนวคิดที่ได้รับรางวัลโนเบล เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ Daniel Kahneman6และนักเศรษฐศาสตร์เชิงพฤติกรรมคนอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นว่ามนุษย์เรามีมุมแหลมที่แปลกประหลาดที่เดินสายเข้ามาในตัวเรา นั่นคือเรามีแรงจูงใจที่จะหลีกเลี่ยงความสูญเสียมากกว่าแรงจูงใจที่จะได้รับในสิ่งที่มีมูลค่าเท่ากัน
มีเพียงมนุษย์ที่ระแวดระวังอันตรายก่อนแล้วจึงค่อยมองหาสิ่งรื่นรมย์บันเทิงใจเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอดมาเล่าเรื่องให้คนอื่นๆ ฟังได้
คุณจะใช้การเกลียดชังความสูญเสียให้เป็นประโยชน์กับตัวเองได้อย่างไร ลองทำให้สิ่งที่คุณใส่ใจตกอยู่ในความเสี่ยงดู ลองวางเดิมพันกับความสำเร็จของคุณเอง
อย่าคิดว่าสิ่งจูงใจขนาดใหญ่กว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเสมอไป เพราะสิ่งจูงใจขนาดใหญ่มักจะกลายมาเป็นเป้าหมายแทน และเมื่อถอดมันออกจากสมการ แหล่งกำเนิดของแรงจูงใจก็จะหายไปด้วยเช่นกัน
บางทีใช้แรงจูงใจแบบพอประมาณจะให้ผลที่ดีกว่า
ให้รางวัลกับชัยชนะเล็กๆ
การยอมรับในปัจจุบันคือการใช้เป้าหมายในปัจจุบันคือการใช้เป้าหมายเล็กๆ จำนวนมาก
จงผูกโยงรางวัลเข้ากับสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ ซึ่งก็คือพฤติกรรมของคุณนั่นเอง จงให้รางวัลกับสิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่สิ่งที่คุณทำสำเร็จ
ในขณะที่เรากำลังพยายามอย่างเต็มที่เพื่อปรับปรุงชีวิตของเราให้ดีขึ้น เราต้องใช้รางวัลมากระตุ้นพฤติกรรมดีๆ คุณต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางการเงินในปัจจุบันของคุณด้วย
ควบคุมพื้นที่ของคุณ
สภาพแวดล้อมมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเราอย่างไร
สิ่งต่างๆ ล้วนมีผลกระทบต่อทุกสิ่งที่เราตัดสินใจเลือกโดยที่เราไม่รู้สึกตัว ล้อมรั้ว ทำให้แน่ใจว่าคุณเป็นคนสร้างและรักษารั้วเอาไว้ อย่าเอารั้วมาแทนที่แหล่งพลัง 6 ด้าน
ควบคุมระยะห่าง
ตัดสินใจที่จะควบคุมมันให้จงได้
สร้างสิ่งเตือนใจ อย่าตกลงไปในหลุมพรางของนิสัยเดิมๆ เตือนตัวเองเมื่อเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ สร้างทางเลือกที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ ใช้เครื่องมือต่างๆ
วิธีที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ตามใจคุณ หน้าที่การงาน อะไรทำให้คนที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดแตกต่างจากคนอื่นๆ รู้เรื่องที่ตัวเองทำได้เป็นอย่างดี จดจ่อกับเรื่องที่ถูกต้อง ช่วยเหลือผู้อื่น ตรวจสอบอีกที เรียนรู้และปรับปรุงปรับเปลี่ยน เชื่อมโยงกับคนที่คุณควรจะเป็น เปลี่ยนมันให้เป็นเกม ฝึกฝนอย่างมุ่งมั่น รื้อโครงสร้างทางการเงิน
สร้างสุขภาพทางการเงินที่แข็งแรง วิธีปลดหนี้และมีชีวิตที่ปลอดหนี้
- คุณอยากให้เราอยู่ตรงไหนในอีกสิบปีข้างหน้า
- ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เราจะอยู่ตรงไหนในอีกสิบปีข้างหน้า
- ข้อดีของการเปลี่ยนแปลงคือคือไร
- คุณตั้งใจว่าจะทำอะไร
เล่าเรื่องทั้งหมดอย่างชัดเจน
การเสพติด จะทวงขีวิตของคุณกลับคืนมาได้อย่างไร อดทนเข้าไว้ ระบุช่วงเวลาวิกฤติของคุณ สร้างพฤติกรรมสำคัญ
ความสัมพันธ์ วิธีเปลี่ยนแปลงเราสองคนด้วยการเปลี่ยนแปลงตัวฉันเอง
ในขณะที่คุณพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง กําจัดความคิดที่ว่าความสําเร็จ นั้นต้องใช้เวลาทั้งชีวิตในการปฏิเสธตนเอง คุณสามารถทําตามขั้นตอนเพื่อ เปลี่ยนความรู้สึกของคุณเกี่ยวกับการเลือกทั้งด้านลบและด้านบวกโดย ทําให้อนาคตของคุณโดดเด่น ฉุนเฉียว ฉุนเฉียว และเป็นจริง
จะเปลี่ยนแปลงโลกรอบตัวเราให้ดีขึ้นได้อย่างไร
- ทำทีละน้อยและทำเดี๋ยวนี้
- เริ่มจดบันทึก
- จินตนาการ
- เปลี่ยนแปลงโลก
ก้าวออกไปและลงมือเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างตั้งแต่ตอนนี้เลย
ขอให้เริ่มลงมือทำเลยนะครับ ทำทีละน้อยแต่ทำเดี๋ยวนี้ รับรองว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเราเองให้ดีขึ้นอย่างมาก ไปสู่สิ่งที่เราต้องการได้อย่างแน่นอน
สร้างแผนการเปลี่ยนแปลงของตัวเองขึ้นมา ข้อมูลเกี่ยวกับผู้แต่งและหัวเรื่อง: www.changeanything.com ลองเรียนรู้ว่าคนอื่นๆ เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
ตัดแปะโดย เฉลิมชัย เอื้อวิริยะิทย์