How To Become Your Own Worst Enemy (Without Ever Realizing It)

Chalermchai Aueviriyavit
4 min readApr 16, 2024

--

วิธีกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของตัวเอง (โดยไม่รู้ตัว)

https://thoughtcatalog.com/brianna-wiest/2015/01/how-you-become-your-own-worst-enemy-without-ever-realizing-it/

By Brianna WiestUpdated October 4, 2018

Let yourself be governed by the illusion of separateness. Believe that you are always in competition with those around you, that you are only as good as you are better than someone else. Believe your conditioning is the only one, the right one. Drown your desire for connection by manically scrolling through feed after feed, day after day. Live your life waiting, waiting, waiting for someone else to make you feel love. Put it all in their hands. Condemn them when they don’t perform. Believe you’re not enough on your own; that there’s something in this world that will save you, and can, and should.

คุณถูกล้างสมองด้วยภาพลวงตาของการ “แตกต่าง” คุณรู้สึกว่าคุณแข่งขันกับผู้คนรอบตัวคุณอยู่เสมอ และคุณจะเก่งได้ก็ต่อเมื่อคุณเก่งกว่าคนอื่นๆ คุณระงับความปรารถนาที่จะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกด้วยการเลื่อนดูโซเชียลมีเดียทุกวัน คุณใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรอ รอ รอใครสักคนที่ทำให้คุณรู้สึกรัก ให้ทุกอย่างกับเขาแล้วตำหนิเขาเมื่อเขาประพฤติตัวไม่ดี คุณเชื่อว่าการพึ่งพาตนเองนั้นไม่เพียงพอ ว่ายังมีบางสิ่งในโลกนี้ที่จะช่วยคุณ สามารถช่วยคุณได้ และควรช่วยคุณ

Believe that marriage licenses mean love, job titles success, religion goodness, money contentment. Trust fully in the powers-that-be, let them teach you how to let your fear control you.

คุณเชื่อว่าทะเบียนสมรสหมายถึงความรัก ตำแหน่งหมายถึงความสำเร็จ ศาสนาหมายถึงความเมตตา และเงินหมายถึงความพึงพอใจ คุณให้ความไว้วางใจอย่างเต็มที่กับผู้มีอำนาจและปล่อยให้พวกเขาสอนวิธีถูกควบคุมด้วยความกลัว

Do not let yourself feel anything other than what other people say it’s okay to feel. If your life looks good from the outside, don’t take the liberty to say it doesn’t feel good on the inside. Act only in accordance with what will make sense to other people. Make the most important facet of your existence being palatable to anyone and everyone else. Trick yourself into thinking that kind of numb safety is happiness.

คุณไม่ยอมให้ตัวเองรู้สึกอย่างอื่นเว้นแต่จะมีคนอื่นบอกว่าคุณรู้สึกแบบนั้นได้ หากภายนอกชีวิตของคุณดูดี คุณไม่ควรปล่อยให้ตัวเองพูดว่าคุณรู้สึกแย่จากภายใน คุณทำสิ่งต่าง ๆ ในแบบที่คนอื่นเห็นชอบเท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณคือการทำให้ทุกคนพอใจ คุณหลอกตัวเองให้คิดว่าความมั่นคงที่ทำให้ชาคือความสุข

Hate yourself for still caring about the person you aren’t supposed to care about anymore. Shame yourself until you’re completely suppressing everything you feel. Spend days and months and years checking their status updates and new pictures in search of something, anything, that justifies the feelings you just want to kill off. Tie yourself in mental knots trying to get your head and heart to coexist. Make caring a bad thing. Make loving worse.

คุณเกลียดตัวเองเพราะคุณยังใส่ใจคนที่ไม่ควรสนใจ คุณรู้สึกละอายใจจนระงับความรู้สึกได้อย่างสมบูรณ์ คุณจะใช้เวลาเป็นวัน เดือน ปี เพื่อดูการอัปเดตสถานะของเขาและรูปภาพที่อัปโหลดใหม่ มองหาบางสิ่ง หรืออะไรก็ตามที่จะพิสูจน์ความรู้สึกของคุณซึ่งคุณแค่พยายามจะกำจัดออกไป รู้สึก คุณต้องการที่จะยอมแพ้และปล่อยให้เหตุผลและอารมณ์อยู่ร่วมกัน คุณไม่ต้องการให้ความรักและความเอาใจใส่อีกต่อไป

Assume that the line between ‘good’ and ‘bad’ runs between religions, or races, or creeds, or nations, rather than in each human heart. Disregard our universal capacity to drown in our denseness.

สมมติว่าเส้นแบ่งระหว่าง ‘ดี’ และ ‘ชั่ว’ อยู่ระหว่างศาสนา เชื้อชาติ ลัทธิ หรือชาติ มากกว่าจะอยู่ที่ใจมนุษย์แต่ละคน มองข้ามความสามารถสากลของเราที่จะจมอยู่ในความหนาแน่นของเรา

Fail to recognize the sameness and beauty in the people you’ve condemned because they were born with genetics or practices or perceptions that are different than yours… because they were conditioned the opposite way to which you were.

คุณประณามคนบางคนเพียงเพราะยีน พฤติกรรม หรือความคิดโดยกำเนิดของพวกเขาแตกต่างจากของคุณ แต่คุณไม่เห็นด้านที่สวยงามของพวกเขา ด้านเดียวกับคุณ เพราะสภาพแวดล้อมของพวกเขาแตกต่างจากของคุณมาก

Never realize that you were conditioned at all.

คุณไม่เคยรู้เลยว่าคุณถูกจำกัดแค่ไหน

Believe that you are your thoughts, that you are your emotions, rather than the being observing those things. Never realize the constant stream of conversation you hold with yourself. Never realize that two thirds of the statements you make and ideas you have are not organically yours. Disregard that they don’t lead you to contentment or kindness or hope, and accept them anyway.

คุณเชื่อว่าความคิดและอารมณ์ของคุณเป็นตัวแทนของคุณ ไม่ใช่การสังเกตของคุณ คุณไม่ได้ตระหนักว่าคุณกำลังพูดคุยกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา และความคิดสองในสามของคุณไม่ใช่ความคิดของคุณเอง คุณไม่เคยสนใจว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่ทำให้คุณพึงพอใจและความหวังจริงๆ และคุณก็จะยอมรับมันอยู่ดี

Pick and choose the people to whom you afford humanness. Decide who is worthy and not. Sift through the traits and habits of others, categorize them into what’s acceptable and not. Don’t let someone be worthy of love and respect just because they are alive, doing this will ensure you never give the same kindness to yourself.

คุณมักจะเลือกแสดงความเมตตาต่อผู้อื่น โดยพิจารณาเสมอว่าใครสมควรได้รับและใครไม่สมควร คุณจัดประเภทผู้อื่นว่าเป็นที่ยอมรับและยอมรับไม่ได้โดยพิจารณาจากลักษณะและนิสัยของพวกเขา คุณไม่เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีค่าควรแก่ความรักและความเคารพ และการทำเช่นนี้ คุณจะไม่มีวันแสดงความเมตตาแบบเดียวกันนี้ให้กับตัวคุณเอง

Be your worst enemy so nobody else can be. Assume the worst so nobody can surprise you with it. Call it being realistic. Accept the life someone else thinks you deserve. Don’t believe that change is real. Don’t believe in anything other than what you can immediately sense and see. Suffocate the chance of possibility. Sustain yourself on temporary highs, the kind that come from other people and their attention. Let your past experiences quantify your self-hatred. Create your past in your present.

คุณกลายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของตนเองในเชิงรุก เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่กลายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของคุณ คุณเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดเพื่อที่จะไม่มีใครทำให้คุณตกใจได้ คุณคิดว่าสิ่งนี้เรียกว่าการเผชิญกับความเป็นจริง คุณยอมรับชีวิตที่คนอื่นคิดว่าคุณสมควรได้รับโดยไม่เชื่อว่าคุณสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้จริง และคุณไม่เชื่อสิ่งใดเลยเว้นแต่คุณจะรู้สึกและมองเห็นได้ทันที คุณปิดกั้นความเป็นไปได้และทำให้ตัวเองมีความสุขชั่วคราว ซึ่งเป็นแบบที่มาจากคนอื่นและได้รับความสนใจจากผู้อื่น คุณเริ่มเกลียดตัวเองเพราะประสบการณ์ในอดีต แม้ว่าคุณจะอยู่กับปัจจุบัน แต่คุณยังคงจมอยู่กับอดีตของคุณ

Let other people wash away the good parts of you. Call this being strong. Settle because you are afraid to choose. Call this being smart. Fight others so you don’t have to face yourself. Resist and reject until it seems like everyone and everything is seeping under your skin and torturing you. Never realize your mind does the wielding. Never realize that bit by bit, you created the life you never really wanted with the pieces you never really chose.

คุณปล่อยให้คนอื่นควบคุมอารมณ์ของคุณและคุณเรียกมันว่ารุนแรง คุณริเริ่มที่จะประนีประนอมเพราะคุณกลัวที่จะเลือก และคุณเรียกสิ่งนี้ว่าปัญญา คุณต่อสู้กับคนอื่นเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับตัวเอง คุณต่อต้านและปฏิเสธจนกว่าทุกคนและทุกสิ่งจะกลายเป็นปีศาจในตัวคุณ ทรมานคุณอยู่ตลอดเวลา คุณไม่มีทางตระหนักได้เพราะคุณถูกควบคุมโดยสมองของคุณ คุณไม่มีทางตระหนักได้เลยว่าคุณกำลังสร้างชีวิตที่คุณไม่เคยต้องการ โดยใช้สิ่งที่คุณไม่เคยเลือกเองจริงๆ

--

--