สมมุติว่าเรามองเห็นวิญญาณแทนที่จะเป็นร่างกาย
If We Saw
Souls
instead of
Bodies
If we could see souls instead of bodies, what would be beautiful?
หากเราเห็นวิญญาณแทนกาย แล้วอะไรจะสวยงาม?
What is the first thing people would know about you? What would you be most afraid of them seeing? Who would you impress? Who would you love?
ความประทับใจแรกที่ผู้คนมีต่อคุณคืออะไร? คุณกลัวอะไรที่พวกเขาเห็นมากที่สุด? ใครจะทำให้คุณประทับใจ? คุณจะหลงรักใคร?
What would you adjust as you walked past the mirror? What kind of work would you be in? What would your goals be, how would you strive to be better if what you collected in the bank or put on your body or attached next to your name on a business card no longer affected what people saw?
คุณปรับอะไรเวลาเดินข้างกระจก? คุณอยากทำอาชีพอะไร? เป้าหมายของคุณคืออะไร? หากเงินที่คุณฝากในธนาคาร เสื้อผ้าที่คุณสวมใส่ และชื่อบนนามบัตรของคุณไม่ส่งผลต่อการรับรู้ของคุณอีกต่อไป คุณจะพยายามทำให้ดีขึ้นได้อย่างไร
Would you spend your time in gyms and stores or in libraries and temples? Who would you let yourself fall in love with? What would your “type” be? Tall, dark, and handsome or creative, kind, and self-aware?
คุณจะใช้เวลาของคุณในยิมและห้างสรรพสินค้า หรือในห้องสมุดและโรงภาพยนตร์? คุณจะปล่อยให้ตัวเองตกหลุมรักใคร? คุณชอบประเภทไหน? สูง เข้ม และหล่อ? หรือสร้างสรรค์ ใจดี ถ่อมตัว?
Whom would we idolize, and what? How much of our governing body would be fit to lead? Whom would we make famous? Whom would we celebrate?
เราจะบูชาใคร? บูชาอะไร? มีกี่คนในหน่วยงานภาครัฐของเราที่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำ? เราจะสร้างชื่อเสียงให้กับใคร? เราควรเฉลิมฉลองใคร?
Would we restructure our value system to prioritize the things that bring us true peace and desire, not just better than the norm? What would we do with all that money if we weren’t spending it on decorating and changing and convincing everybody else that we are a way we really aren’t?
เราจะปรับระบบคุณค่าของเราใหม่เพื่อจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ทำให้เรามีสันติสุขและความหวังอย่างแท้จริง มากกว่าสิ่งที่ดูดีหรือไม่? ถ้าเราไม่ต้องเสียเงินเพื่อตกแต่งตัวเอง เสริมสร้างตัวเอง และให้คนอื่นประหลาดใจกับรูปลักษณ์ของเราอีกต่อไป เราจะเอาเงินนั้นไปทำอะไร?
How would we define success? As who gathers the most shit around their souls or who is transformed the most and shines the brightest? What would it be like if our priority was to just become lightness? What kindness and joy and healing and rawness would come of the journey there?
เราจะนิยามความสำเร็จได้อย่างไร? แข่งขันเพื่อดูว่าใครมีสถานะสูงสุดและทำเงินได้มากที่สุด? หรือใครเติบโตเร็วที่สุดและแสงของใครส่องสว่างที่สุด? โลกจะเป็นอย่างไรหากสิ่งสำคัญอันดับแรกของเราคือการมีแสงแดดสดใส? การเดินทางของชีวิตแบบนั้นจะเต็มไปด้วยความสุขและความไร้เดียงสาแบบไหน?
What would happen if we could see people not as “bad,” but as…blocked? If we could see the ways they’ve packed away their pain, or how they hold a belief that keeps them away from being kind to others? How they are unaware that those issues even exist?
จะเป็นอย่างไรถ้าเราเห็นว่าคนบางคนไม่ได้ “เลว” แต่… มีบางอย่างปิดบัง จะเป็นอย่างไรถ้าเราเห็นว่าเขาซ่อนความเจ็บปวดไว้อย่างไร และเลือกที่จะไม่ใจดีกับคนอื่นด้วยเหตุผลบางอย่าง? ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้ว่าปัญหาเหล่านี้มีอยู่จริง?
What if we weren’t afraid of the ways people are different than us?
จะเป็นอย่างไรถ้าเราหยุดกลัวผู้ที่แตกต่างจากเรา?
What would happen if we realized our bodies never wanted anything more than to feel connected, and acted out on nothing more than their false ideas of being separate, different, exiled, the odd one out, the almost-but-not-good-enough?
จะเป็นอย่างไรถ้าเราตระหนักว่าร่างกายของเราโหยหาความใกล้ชิดและพฤติกรรมของเราสะท้อนสิ่งที่ตรงกันข้ามเนื่องจากความเข้าใจผิดว่าเราถูกโดดเดี่ยว บกพร่อง ถูกกีดกัน และไม่เหมาะสม จะเกิดอะไรขึ้น?
What would happen if we embraced our desire to play out and finagle with our individualism, but eventually returned to the knowing that we are all just energy fields? And where would we be if we realized that we were all from the same one? What would happen if we realized we really weren’t that different at all?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราปลดปล่อยความปรารถนาของเราอย่างเต็มที่และปลดปล่อยความเป็นปัจเจกของเราออกมา? จะเป็นอย่างไรถ้าเราตระหนักว่าเราทุกคนมาจากดาวดวงเดียวกันและไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น?
จาก 101 บทความเปลี่ยนชีวิตที่จะเปลี่ยนวิธีคิดคุณ (101 Essays That Will Change The Way You Think) ผู้เขียน Brianna Wiest
ตัดแปะโดย เฉลิมชัย เอื้อวิริยะวิทย์