เหตุผลที่คุณไม่ควรแสวงหาความสบายใจ

Chalermchai Aueviriyavit
3 min readApr 15, 2024

9 Reasons Why Happy People Don’t Seek Comfort

By Brianna Wiest Updated February 7, 2022

1. Your brain can’t differentiate “good” from “bad,” it only knows “comfortable” and “uncomfortable.” สมองของคุณไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง “ดี” และ “ไม่ดี” ได้ แต่สมองรู้แค่ว่า “สบาย” และ “อึดอัด” This is a pretty raw example, but it’s the reason why criminals never think their actions are “wrong,” they think they’re justifiable. It’s why we do things we objectively know are bad for us, and confuse them for “feeling good.” นี่คือสาเหตุที่อาชญากรไม่เคยคิดว่าการกระทำของตน “ผิด” — พวกเขาคิดว่าการกระทำของตนมีความชอบธรรมอย่างสมบูรณ์ นี่คือเหตุผลที่เราทำสิ่งที่เรารู้ว่าเป็นอันตรายต่อเราและคิดว่า “รู้สึกดี” ที่ทำเช่นนั้น

2. You don’t want what you want, you want what you’ve known. สิ่งที่คุณต้องการไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการจริงๆ We are literally incapable of predicting an outcome that is out of the realm of what we’ve known prior. So rather than trying to seek “better,” we seek “the best of what we’ve known,” even if “the best” is really just the solution to a problem we didn’t need to re-create again.คุณเพียงต้องการสิ่งที่คุณคุ้นเคยเราไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ที่เกินกว่าที่เรารู้ได้ ดังนั้นแทนที่จะแสวงหา “สิ่งที่ดีกว่า” เราแสวงหา “สิ่งที่ดีที่สุดที่เรารู้” และบางที “สิ่งที่ดีที่สุด” นี้อาจเป็นความชั่วร้ายที่น้อยกว่าสองประการ

3. “Familiar discomfort” feels the same as “comfort.” “ความรู้สึกไม่สบายที่คุ้นเคย” ให้ความรู้สึกเหมือน “ความสบายใจ”Which is why so many people are stuck in “ruts,” or absolutely do not want to change even though they know it’s what would be best for them. นี่คือสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนทำผิดพลาดซ้ำๆ และไม่ปรารถนาที่จะเปลี่ยนแปลง แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาก็ตาม

4. There’s no such thing as true security. ไม่มีความรู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริงเราแสวงหาความสะดวกสบาย We seek comfort believing that it makes us safe, but we live in a world in which there is no such thing as true security. Our bodies were made to evolve, our physical items are temporary and can be lost and broken, etc. To combat this, we seek comfort, rather than accepting the transitory nature of life. โดยเชื่อว่าสิ่งนี้ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย แต่เราอาศัยอยู่ในโลกที่ไม่มีความรู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริง ร่างกายของเราได้รับการออกแบบมาให้มีวิวัฒนาการ และสิ่งที่เราเป็นเจ้าของนั้นเป็นเพียงสิ่งชั่วคราวและอาจสูญหายหรือแตกหักได้ เพื่อบรรเทาความรู้สึกไม่แน่นอนนี้ เราแสวงหาการปลอบโยนมากกว่าการยอมรับการเปลี่ยนแปลง

5. The only way you grow is by stepping into the unknown. วิธีเดียวที่จะเติบโตคือการไปสู่สิ่งที่ไม่รู้ It’s why so many people have “breakdown before breakthrough” moments. Often, their lives are leading them to better possibilities than they thought possible, they just didn’t know it was “good” at the time. นี่คือสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนมีช่วงเวลา “อารมณ์แปรปรวน” ของตนเอง ช่วงเวลาเช่นนี้หมายความว่าชีวิตของพวกเขามีศักยภาพที่จะดีขึ้นกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้ พวกเขาแค่ไม่รู้ว่าตอนนั้น “ดี”

6. Most people don’t change until not changing is the less comfortable option. คนส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนจนกว่าจะไม่เปลี่ยนเป็นตัวเลือกที่สะดวกสบายน้อยลง But there’s usually a long period of time of increasing discomfort before “not changing” is the worst case scenario. The Universe whispers until it screams, and happy people listen while the call is still quiet. แต่โดยปกติแล้วอาการไม่สบายจะเพิ่มขึ้นเป็นระยะเวลานานก่อนที่สถานการณ์จะ “ไม่เปลี่ยนแปลง” จะเป็นกรณีที่เลวร้ายที่สุด จักรวาลกระซิบจนกระทั่งมันกรีดร้อง และผู้คนที่มีความสุขก็ฟังในขณะที่การเรียกนั้นยังคงเงียบอยู่

7. There are two mindsets people tend to have: explorer or settler. โดยทั่วไปแล้วผู้คนมีกรอบความคิดสองประการ: นักสำรวจและผู้ตั้งถิ่นฐาน Our society has a “settler” mindset, our end goals are “finalizing” (home, marriage, career, etc.) in a world that was made for evolution, in selves that do nothing but grow and expand and change. People with “explorer” mindsets are able to actually enjoy what they have, and experience it fully, because they are inherently unattached. โดยทั่วไปสังคมของเรามีความคิดแบบ “ผู้ตั้งถิ่นฐาน” ซึ่งเป้าหมายของผู้คนคือการ “บรรลุ” งานต่างๆ (เช่น ครอบครัว การแต่งงาน อาชีพ ฯลฯ) ในโลกที่ต้องมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เราทำคือเติบโต ขยาย และเปลี่ยนแปลง ผู้ที่มีความคิดแบบ “นักสำรวจ” สามารถเพลิดเพลินกับสิ่งที่พวกเขามีและสัมผัสมันได้อย่างเต็มที่เพราะพวกเขามีจิตวิญญาณอิสระโดยธรรมชาติ

8. There’s no such thing as real comfort, there’s only the idea of what’s safe. ไม่มีความสะดวกสบายที่แท้จริง ความสะดวกสบายเป็นเพียงแนวคิดนี่เป็นข้อเท็จจริงที่ยากจะยอมรับ This one is a big one to swallow, but there’s really no such thing as “comfort,” which is why comfortable things don’t last, and why the best adjusted people are most “comfortable” in “discomfort.” Comfortable is just an idea. You choose what you want to base yours on.แต่จริงๆ แล้วไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ความสะดวกสบาย” ในโลก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมสิ่งที่สะดวกสบายจึงไม่คงอยู่ และทำไมคนที่ปรับตัวได้ดีที่สุดจึงสามารถไปกับกระแสและความรู้สึกได้ “สบาย” ใน “ความไม่สบาย” . ความสบายเป็นเพียงแนวคิด ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้คำจำกัดความไว้อย่างไร

9. Life isn’t about being “certain,” it’s about trying anyway. ชีวิตไม่ใช่เรื่องของการแสวงหา “ความแน่นอน" Comfort is, essentially, certainty. You can either choose to be certain about what you’ve known, or certain that you’ll make the best of whatever happens (guess who has a better time?) Because nobody is ever really certain. The people who have lives they love try anyway. แต่เป็นการพยายามไม่ว่าอะไรก็ตาม”ความสบาย” เป็นหลักที่แน่นอน คุณสามารถเลือกที่จะทำเฉพาะสิ่งที่แน่นอน หรือคุณสามารถเลือกที่จะทำให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม (ทายสิว่าทางเลือกไหนจะทำให้ชีวิตดีขึ้น?) เพราะไม่มีใครมั่นใจอะไรได้จริงๆ คนที่รักชีวิตจะพยายามทุกวิถีทาง

จาก 101 บทความเปลี่ยนชีวิตที่จะเปลี่ยนวิธีคิดคุณ (101 Essays That Will Change The Way You Think) ผู้เขียน Brianna Wiest

ตัดแปะโดย เฉลิมชัย เอื้อวิริยะวิทย์

--

--